เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้า แต่คนรุ่นใหม่กลับอยู่ที่เดิม?
เมื่อเทคโนโลยีวิ่งไปข้างหน้า แต่คนรุ่นใหม่กลับยังอยู่ที่เดิม?
ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว โลกดิจิทัลได้เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ มากมาย ทั้งด้านการเรียนรู้ การทำงาน การสื่อสาร รวมถึงการสร้างรายได้ คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยกลายเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ ยูทูบเบอร์ โปรแกรมเมอร์ และนักออกแบบดิจิทัลตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยเครื่องมือดิจิทัลที่อยู่ในมือ
แต่ในอีกมุมหนึ่งของความจริง… ยังมีคนรุ่นใหม่อีกจำนวนไม่น้อยที่ยัง “เข้าไม่ถึง” เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่อยากเรียนรู้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่พยายาม แต่เป็นเพราะพวกเขายังขาด “สิ่งพื้นฐาน” ที่ควรจะได้รับในยุคที่เทคโนโลยีถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ในอีกมุมหนึ่งของความจริง… ยังมีคนรุ่นใหม่อีกจำนวนไม่น้อยที่ยัง “เข้าไม่ถึง” เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่อยากเรียนรู้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่พยายาม แต่เป็นเพราะพวกเขายังขาด “สิ่งพื้นฐาน” ที่ควรจะได้รับในยุคที่เทคโนโลยีถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงทุกวัน เรามี AI ที่คิดแทนเราได้ มีระบบอัตโนมัติที่ทำงานได้แม่นยำกว่ามนุษย์ และมีข้อมูลมหาศาลที่พร้อมให้เรียนรู้แค่ปลายนิ้ว แต่กลับมีคำถามสำคัญที่ต้องถามกันตรงๆ ว่า... ทำไมคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย ยังคงย่ำอยู่ที่เดิม?
สาเหตุของปัญหา “การเข้าไม่ถึง” เทคโนโลยีในคนรุ่นใหม่
1. การศึกษาไทยยังตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง
แม้เทคโนโลยีจะวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ในหลายพื้นที่ ระบบการศึกษายังเน้นการสอนแบบดั้งเดิม
● การเรียน ICT ในโรงเรียนบางแห่งยังเป็นการสอนพิมพ์ดีด
● ทักษะดิจิทัลสมัยใหม่ เช่น การโค้ดดิ้ง การทำกราฟิก หรือการใช้ AI แทบไม่ถูกแตะต้อง
● ครูจำนวนมากเองก็ยังไม่มีความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยี
2. ความรู้และทักษะ ยังไม่เท่ากับความเข้าใจ
แม้จะมีแหล่งความรู้ฟรีมากมาย เช่น YouTube, Google, หรือคอร์สออนไลน์จากทั่วโลก แต่คนรุ่นใหม่บางส่วนยังไม่สามารถใช้สิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ใช่เพราะพวกเขา “ขาดความสามารถ” แต่เพราะพวกเขา “ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน”
ไม่ใช่เพราะพวกเขา “ขาดความสามารถ” แต่เพราะพวกเขา “ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน”
● ไม่มีใครชี้ทางว่าควรเริ่มเรียนอะไร
● ขาดแรงบันดาลใจหรือแบบอย่างที่ใกล้ตัว
● ขาดการส่งเสริมจากครอบครัวหรือสังคมรอบข้าง
● บางครั้งเทคโนโลยีถูกใช้ในทางเสพติดมากกว่าสร้างสรรค์ เช่น การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก
3. ความเร็วของเทคโนโลยี กลายเป็นแรงกดดัน
● ในขณะที่โลกออนไลน์หมุนเร็วขึ้นทุกวัน คนที่ตามไม่ทันอาจรู้สึกว่าตนเอง “ล้าหลัง”
เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนหรือคนในโลกโซเชียลที่ประสบความสำเร็จด้วยเทคโนโลยี คนรุ่นใหม่บางกลุ่มจึงเกิดภาวะกดดัน วิตก หรือแม้แต่หมดความมั่นใจในตัวเอง
4. ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานและความเหลื่อมล้ำทางสังคม
● แม้ว่าจะมีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัลแพร่หลาย แต่ในบางพื้นที่โดยเฉพาะชนบทหรือชุมชนที่มีรายได้น้อย การเข้าถึงเทคโนโลยียังคงเป็นเรื่องยาก เพราะขาดแคลนอุปกรณ์หรือบริการอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพ
5. ปัญหาทางจิตใจและสังคม
● บางคนอาจรู้สึกว่าการใช้เทคโนโลยีเป็นเรื่องซับซ้อน น่ากลัว หรือไม่จำเป็นในชีวิต ส่งผลให้ไม่อยากพยายามเรียนรู้หรือเข้าร่วมโลกดิจิทัล
ผลกระทบของการไม่เข้าเทคโนโลยี
● เมื่อคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงหรือใช้เทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ พวกเขาอาจเสียโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การศึกษา การทำงาน หรือแม้แต่บริการทางสังคมในยุคดิจิทัล ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ทางออกและแนวทางแก้ไข
● สนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างทั่วถึง โดยรัฐบาลและองค์กรควรผลักดันโครงการอินเทอร์เน็ตราคาถูกและอุปกรณ์สำหรับกลุ่มเปราะบาง
● พัฒนาทักษะดิจิทัลอย่างเป็นระบบ ทั้งในโรงเรียนและชุมชน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ทุกคนมีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี
● สร้างแรงจูงใจและลดความกลัวในการใช้เทคโนโลยี ผ่านการอบรม การสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน
บทสรุป
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการ “เข้าถึงเทคโนโลยี” คือสิ่งที่ต้องเกิดควบคู่กัน
คนรุ่นใหม่ไม่ควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพียงเพราะเขาไม่มีโอกาสเริ่มต้นเท่าคนอื่น
และบางที สิ่งที่เราควรพูดถึงให้มากกว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็คือ “การทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะสัมผัสมันเลย”
คนรุ่นใหม่ไม่ควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพียงเพราะเขาไม่มีโอกาสเริ่มต้นเท่าคนอื่น
และบางที สิ่งที่เราควรพูดถึงให้มากกว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็คือ “การทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะสัมผัสมันเลย”